สุขภาพและรูปร่าง : บทความการดูแลสุขภาพและรูปร่าง

บทความการดูแลสุขภาพและรูปร่างให้ดียิ่งขึ้น, ป้องกันและลดโรคอ้วน และโรคร้ายต่างๆเพื่อสุขภาพและรูปร่างที่ดี, ประโยชน์และโทษของสารอาหารต่างๆที่ควรทราบเพื่อสุขภาพและรูปร่างที่ดี,

<

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ยิ่งอดยิ่งอ้วน

การอดอาหารก็เช่นกัน ถ้าคุณอดอาหารเป็นระยะเวลานาน ระดับการเผาผลาญของคุณก็จะลดลงเรื่อยๆจนถึงระดับที่ต่ำมาก จนต่ำกว่าพลังงานที่ได้จากอาหารที่ทานน้ำหนักคุณก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นๆ แม้ยังคงอดอาหารอยู่ก็ตามเราอาจจะเคยเห็นคนที่กินน้อยมากแต่ก็ยังคงอ้วนอยู่
*โรคร้ายที่ตามมา
การที่เราทานยาหรืออดอาหารนานๆ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับอาหารอย่างที่ควรจะได้รับ ทำให้อวัยวะต่างๆริ่มทำงานลดลงและทำงานบกพร่อง ซึ่งเป็นที่มาของโรคต่างๆมากมาย เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ มะเร็ง ความดัน โรคไต และอื่นๆ

รับข้อมูลเพิ่มเติมด้านสุขภาพและรูปร่างฟรี(จากผู้เชียวชาญ)

ติดต่อ รัฐยา
healthy.body85@gmail.com

ดื้อยาหรือเปล่า

หลายๆคนทานยาลดน้ำหนักติดต่อกันเป็นระยะเวลานานนอกจากผลร้ายต่อสุขภาพแล้วในระยะยาวยานั้นจะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป เพราะระดับการเผาผลาญของเราลดลงต่ำกว่าระดับพลังงานที่ได้จากอาหารที่ทาน เพราะไม่ใช่แค่ปริมาณโปรตีนในร่างกายน้อยลงเท่านั้น แต่อวัยวะต่างๆ เมื่อได้รับสารอาหารน้อยลง ก็จะทำงานน้อยลงด้วยเช่นกัน มีผลทำให้ระดับการเผาผลาญลดลงเรื่อยๆ ซึ่งแพทย์บางคนแก้ไขปัญหาโดยการให้ยาที่แรงขึ้นเพื่อให้เราทานน้อยลงอีก (ซึ่งอันตรายมากๆๆๆ) คนที่ทานไปเรื่อยๆ จะระดับเผาผลาญต่ำกว่าพลังงานที่ได้จากอาหารที่ทาน สุดท้ายก็อ้วนขึ้นอยู่ดี

ดื้อยาหรือเปล่า

หลายๆคนทานยาลดน้ำหนักติดต่อกันเป็นระยะเวลานานนอกจากผลร้ายต่อสุขภาพแล้วในระยะยาวยานั้นจะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป เพราะระดับการเผาผลาญของเราลดลงต่ำกว่าระดับพลังงานที่ได้จากอาหารที่ทาน เพราะไม่ใช่แค่ปริมาณโปรตีนในร่างกายน้อยลงเท่านั้น แต่อวัยวะต่างๆ เมื่อได้รับสารอาหารน้อยลง ก็จะทำงานน้อยลงด้วยเช่นกัน มีผลทำให้ระดับการเผาผลาญลดลงเรื่อยๆ ซึ่งแพทย์บางคนแก้ไขปัญหาโดยการให้ยาที่แรงขึ้นเพื่อให้เราทานน้อยลงอีก (ซึ่งอันตรายมากๆๆๆ) คนที่ทานไปเรื่อยๆ จะระดับเผาผลาญต่ำกว่าพลังงานที่ได้จากอาหารที่ทาน สุดท้ายก็อ้วนขึ้นอยู่ดี
*ยิ่งอดยิ่งอ้วน

อันตรายจากการอดอาหาร

การอดอาหารนั้น(โดยเฉพาะมื้อเช้า) ก็ส่งผลร้ายมากกว่าเราคาด เพราะร่างกายเราจะรึยนรู้ว่าร่างกายกำลังเกิดสภาวะการขาดอาหาร ด้วยความชาญฉลาดตามธรรมชาติ ร่างกายของเราก็จะมีการกับเก็บไขมันไว้ใช้เมื่อยามคับขันและในขณะเดียวกันก็หยุดการทำงานอวัยวะบางส่วนเพื่อให้ประหยัดพลังงานที่สุด (สภาวะจำศีล- Hibernation) ในช่วงแรกน้ำหนักจึงยังสามารถลดลงได้ เพราะปริมาณอาหารที่ทานยังให้พลังงานน้อยกว่าที่ใช้ แต่น้ำหนักที่ลดลงไม่ใช่จากปริมาณไขมันในร่างกายที่ลดลงอย่างเดียว เราได้สูญเสียโปรตีนไปบางส่วนเช่นกัน ทำให้ระดับการเผาผลาญพลังงานของร่างกายเราก็จะลดลงเรื่อยๆฉะนั้น หลังจากที่เรากลับมาทานอาหารตามปกติ เราจะมีระดับการเผาผลาญที่ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ แต่ทานอาหารปกติ น้ำหนักเราก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
*หมายเหตุ หากอวัยวะส่วนที่ทำงานน้อยลงเป็ฯอวัยวะที่สำคัญจะส่งผลให้คุณเป็นโรคที่เกี่ยวกับโรคอ้วน(เช่น เบาหวาน)

อันตรายและความเข้าใจเรื่องระดับการเผาผลาญเมื่อคุณทานยาลดน้ำหนักหรืออดอาหาร(ระยะสั้น)เพื่อสุขภาพและรูปร่าง

จริงๆแล้ว การทานยาลดน้ำหนักมีอันตรายที่ทุกคนทราบกันอยู่แล้ว ว่ามีผลข้างเคียงกับสมองและหัวใจ และหากทานนรานๆจะส่งผลให้มีอาการจิตหลอน และอาจอันตรายถึงเสียชีวิต แต่ยังมีผลข้างเคียงที่เรามองไม่เห้นหรือไม่สามารถรับรู้ได้คือการทานยาลดน้ำหนัก น้ำหนังที่ลดลงนั้น ไม่ได้มาจากปริมาณไขมันที่หายไปเท่านั้นตั่งทำลายกล้ามเนื้อและโปรตีนในร่างกายด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ระดับการเผาผลาญพลังงานในร่างกายเราลดลงและนั่นเป็นที่มาของ yo-yoeffect ในช่วงแรกที่คุณทานยาลดน้ำหนัก สมองจะสั่งให้เรานน้อยลง โดยระดับการเผาผลาญของเรายังคงอยู่ที่ระดับปกติ(ประมาณ 2000 kcal/วัน) แต่เราทานน้อยลง น้ำหนักเราก็จะลดลงเรื่อยๆแต่ในขณะเดียวกันระดับการเผาผลาญของเราก็ลดลงด้วยและเมื่อเราจะหยุดทาน(ไม่ว่าจะหยุดเลยหรือใช้ยาหยุด)ระดับการเผาผลาญก็ยัง คงปรับตัวลงเล็กน้อย ในขณะเดียวกันกับที่เราหยุดทานยา เราก็จะเริ่มทานอาหารแม้ในช่วงแรกจะทานน้อยกว่าปกติ แต่เราก็จะเริ่มทานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนมาทานอาหารในระดับปกติ(ประมาณ 2000 kcal/วัน) จะเห็นว่าหลังจากเราหยุดทานยาลดน้ำหนักไม่นาน ระดับพลัง งานที่เราทานจะมากก่าระดับพลังงานที่เราใช้ (เผาผลาญ) เมื่อกินมากกว่าใช้ ก็จะเกิดการสะสมไขมันและคุณก็จะอ้วนขึ้นเรื่อยๆแม้ทานอาหารตามปกติก็ตาม

ข้อควรรู้เกี่ยวกับสุขภาพและรูปร่าง “ทำไมถึงอ้วน”

ปริมาณพลังงานที่ได้จากอาหารที่ทาน มากกว่าระดับพลังงานที่ร่างกายเผาผลาญ “ทานมากไป” หรือ “ร่างกายเผาฟผลาญต่ำเกินไป”

ความเข้าใจเรื่องระดับการเผาผลาญที่ส่งผลถึงสุขภาพและรูปร่าง

ระดับเผาผลาญ หมายถึงปริมาณพลังงานที่ร่างกายใช้ในแต่ละวันเพื่อกิจกรรมต่างๆ ร่างกายของคนปกติ จะเผาผลาญพลังงานประมาณ 2000 kcal(กิโลแคลอรี่/วัน (จากกระทรวงสาธารณสุข)
ระดับพลังงานที่ได้ หมายถึง ปริมาณพลังงานที่เราได้รับจากอาหารที่เราทานในแต่ละวัน
น้ำหนักจะเพิ่มหรือลด ขึ้นอยู่กับปัจจัยเพียงแค่ 2 อย่าง คือความตากต่างระหว่างปริดมาณพลังงานที่เราได้รับ(จากการทาน) กับระดับการเผาผลาญพลังงาน(ที่เราใช้) หากเราทานมากกว่าใช้น้ำหนักจะเพิ่มหากเราทานน้อยกว่าใช้น้ำหนักจะลดไม่ได้ขึ้นอนู่กับปริมาณอาหารหรือปริมาณไขมันหรือแป้งหรือน้ำตาลมากหรือน้อย

EPA และ DHAมีประโยชน์ อย่างไรต่อสุขภาพและรูปร่าง

เนื่องจากในร่างกายมนุษ ประกอบด้วยสารเคมีหลายชนิด ศซึ่งส่งผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีของร่างกาย ทำให้ปลดปล่อยพลังงานในการดำเนินกิจกรรมต่างๆสารเคมีในกลุ่มพรอสตาแกรนดิน(Prostaglandin) ซึ่งประกอบไปด้วยสารเคมีหลายชนิด การที่มีสารพวกนี้หลั่งมากหรือน้อยเกินไป ล้วนส่งผลต่อร่างกาย เช่น อาจทำให้ปวดหัว เป็นไข้ ทั้งนี้เพราะสารเหล่านี้ควบคุมระบบที่สำคัญหลายอย่าง การกินน้ำมันปลาจะทำให้ EPA และ DHA เปลี่ยนเป็นสารพรอสตาแกรนดินที่แตกต่างออกไป และมีผลต่ออวัยวะต่างๆดังนี้
ผลต่อระบบเลือดและหัวใจ
· ยับยั้งฤทธิ์พรอสต่าแกรนดินในการทำให้เลือดแข็งตัว โดยช่วยลดความเสี่ยงในการจับตัวกันของเกล็ดเลือด ทำให้ลดปัญหาการอุดตันของหลอดเลือดได้ ทำให้ลดความเสี้ยงของหัวใจวาย
· อาจช่วยดระดับไตรกรีเซอไรด์(ไขมันในเลือดซึ่งเกี่ยวข้องกับโคเลสเตอรอล) ในเลือดและช่วยลดความดันโลหิตสูงได้
· มีการวิจัยว่าช่วยทำให้กลไกการเต้นของหัใจเป็นปกติ โดยมีผลต่อการปั้มเข้าออกของสารแคลเซียม โซเดียม และประจุไฟฟ้าอื่นๆให้เป็นไปอย่างปกติซึ่งเป็นตัวควบคุมกล้ามเนื้อหัวใจในการยืดหดตัว
· ทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
ลดอาการอักเสบในโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
สารพรอสตาแกรนดินทำให้เกิดอาการปวด และอักเสบในผู้ป่วยโรค้ออักเสบรูมาตอยด์ โดยปกติสารพรอสตาแกรนดินถูกสร้าทมาจากกรด Arachidonic การทนสารEPA และ DHA จะระงับการทำงานของกรด Arachidonic ทำให้สามารถลดอาการปวด และอักเสบในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับยาหลายชนิดร่วมกัน จึงจำเป็นต้องดั้บการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด
ผลต่อความยืดหยุ่นของผนังเซลล์
ปกติเมื่อเราชราภาพ ผนังเซลล์จะแข็งตัวขึ้นและมีความยืดหยุ่นน้อยลง ซึ่งจะมีผลลบต่อการทำงานของเนื้อเยื่อทั่วร่ากาย รวมถึสมองและดวงตาอีกด้วย โอเมก้า 3 จะทำให้ผนังเซลล์มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในขณะเดียวกันทำให้มีกลไกรับอินซินได้มากขึ้นด้วย
ผลอื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอีกมากที่พบว่า อาจช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า มีผลต่อความจำ ระบบภูมิต้านทานโรค การทำงานของอินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน หรือการศึกษาผลต่อการทำลายเซลล์มะเร็ง ซึ่งคงต้องรอผลวิจัยเพิ่มเติมอีกในอนาคต

น้ำมันปลามีประโยชน์ อย่างไรต่อสุขภาพและรูปร่าง

ทีมวิจัยของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด สหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาผู้หญิงมากกว่า 80,000 คนพบว่า การทานปลามากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยลดความเสี่ยงของการป่วยเป็ฯโรคเส้นเลือดในสมองแตกลงได้กว่าครึ่ง ทั้นี้เป็นเพราะกรดไขมันชนิดดีในปลาที่ชื่อโอเมก้า 3 ช่วยป้องกันการจับตัวเป็นลิ่มของเลือด ผลการวิจัยยังบอกด้วยว่า ยิ่งทานปลามากึ้น คือมากกว่า 5 ครั้งต่อสัปดาห์คามเสี่ยงที่จะปแวยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตกจากภาวะหลอดเลือดจับตัวเป็นลิ่มจะยิ่งน้อยลง
ในน้ำมันปลามีกรดไขมันจำเป็ฯ(essential fatty acidฉ ซึ่งเป็นไขมันแบบ “ดี” คือ โอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันไฟม่อิ่มตัวชนิดหลายตำแหน่งประเภทเดเยวที่มีอยู่ในปลาน้ำเย็น เช่น ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ ปลาทู และปลาทูน่า โอเมก้า 3 อยู่ในรูปแบบของกรดชนิดต่างๆที่มีประโยชน์มากที่สุด 2 นิด คือ EPA (Eicosapentaenoic acid) และ DHA(Docosahexaenoic acid) และยังมีชนิดที่ 3 เรียกว่า ALA(Alphalinolenic acid) ซึ่งมาจากพืช และช่วยในการสร้าง EPA และ DHA น้ำมันปลาทะเลแตกต่างจากน้ำมันจากสัตว์หรือพืช เพราะห่วงโซ่อาหารของสัตว์ทะเลเริ่มต้นจากไฟโตแพลงตอน และสาหร่ายทะเล ซึ่งมีองคืประกอบทางเคมีต่างจากพืชบก ทำให้พบ โอเมก้า 3 ผิดกับสัตว์บกที่จะมีกรดไขมันแบบ โอเมก้า6

อนุมูลอิสระ(Free radicals)ส่งผลอย่างไรกับสุขภาพและรูปร่าง

อนุมูลอิสระ คืออนุมูลที่เป็นอิสระที่อยู่ในร่างกายเรา ซึ่งมาจากทัเงภายนอกและภายใน ภายนอกจะมาจากสารพิษที่อยู่ในมลพิษทางอากาศที่เราสูดดม สารพิษที่อยู่ในอาหารที่เราทาน เช่น อาหารที่ทอดในน้ำมันที่ทอดหลายครั้ง อาหารที่มีสารเคมี เนื้อที่ย่างจนไหม้กรียม ส่วนภายในนั้นมาจากกระบวนการทำงานต่างๆของร่างกาย เมื่อร่างกายเกิดการสันดาปในอวัยวะต่างๆก็จะเกิดของเสียหรืออนุมูลอิสระเกิดขึ้น (หมือนกับการสันดาปของเครื่องยนต์ต่างๆก็จะทำให้เกิดของเสียหรือไอเสียเช่นเดียวกัน) ยิ่งร่างกายเรามีอนุมูลอิสระมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆมากขึ้นเท่านั้นเพราะอนุมูลอิสระจะเข้าไปทำให้เซลล์เกิดการทำงานที่ผิดปกติขึ้น และทำให้เกิดความเสื่อมต่างๆขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง โรคแก่ก่อนวัยโรคเสื่อมสมรรถภาพของอวัยวะต่างๆ

สารสกัดจากใบโรสแมรี่มีประโยชน์ อย่างไรต่อสุขภาพและรูปร่าง

โรสแมรี่ ซึ่งพบมากในแถบอเมริกาเหนือ ผู้คนแถบนี้นิมใช้บำรุงสุขภาพตั้งแต่โบราณแล้ว โดยส่วนที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์คือใบ จากการศึกษาและวิจัยพบว่าในใบมีสารเคมีในกลุ่มของ ฟีนอลลิคไค โดยเฉพาะโรสมารินิค คาร์โนซิค และคาร์นาโซล วึ่งจากการวิจัยของมหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ (king’s college) ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ตีพิมพ์ในวารสาร ซีโนไบโอติค พบว่าจะมีผลในการกำจัดสารพิษต่างๆในร่างกายโดยเฉพาะอนมูลอิสระ(ที่มีผลต่อการทำลายเซลล์และเป็นสาเหตุองมะเร็ง) และยังช่วยลดการทำงานเยื่อหุ้มเซลล์และสารกรรมพันธุ์ หรือDNA จากความเป็นพิษของอนุมูลอิสระ และยังลดฤทธิ์การทำลายเซลล์ของอนุมูลอิสระ(antioxidant) นอกจากนี้ทความทางวิชาการที่ตีพิมพ์ในวารสาร Indian journal experimental biology ปี 1999 ยังแสดงให้เห็นว่าสารสกัดากโรสแมรี่ยังให้ผลในการป้องกันภาวะหอบหืด ภาวะอาการเกร็งของทางเดินอาหาร ภาวะหลอดเลือดแข็งตัวภาวะหัวใจขาดเลือด ภาวะต้อกระจก ภาวะมะเร็ง และภาวะที่ตัวอสุจิในเพศชายมีความบกพร่อง ซึ่งผลต่างๆมาจากฤทธิ์ในการต้านความเป็นพิษของอนุมูลอิสระนั่นเอง

เกลือแร่โครเมียมโพลีนิโคติเนตมีประโยชน์ อย่างไรต่อสุขภาพและรูปร่าง

เกลือแร่โครเมียมโพลีนิโคติเนต จะช่วยให้ร่างกายสามารถควบคุมน้ำตาลได้ดีขึ้น ถ้าหากช่วงไหนร่างกายของเราขาดเกลือแร่โครเมียมฯ จะทำให้ร่างกายทำงานหนักเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ ทางการแพทย์จึงมักจะสั่งจ่ายเกลือแร่โครเมียมฯ ให้ผู้ป่วยที่มีภาวะเบาหวาน เนื่องจากช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี และเนื่องจากการที่ร่างกายสามารถนำน้ำตาลในเลือดเข้าสู้เซลล์ได้ดีขึ้นจะทำให้ความอยากทานอาหารประเภทแป้งน้อยลง (เนื่องจากร่างกายได้รับเพียงพอแล้ว) จึงช่วยให้เราสามารถควบคุมการทานของจุบจิบและของว่างได้ดีขึ้น

สารสกัดจากผลส้มแขก มีประโยชน์ อย่างไรต่อสุขภาพและรูปร่าง

สารสกัดจากผลส้มแขก ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์จากตับอ่อนที่ทำหน้าที่เปลี่ยนแป้ และน้ำตาล ในอาหารที่เราทานแล้วไม่ได้ใช้ ไม่ให้เปลี่ยนเป็นไขมันเพื่อน้ำไปสะสม ซึ่งเป็นประ
โยชน์ต่อผู้ที่ต้องการสำน้ำหนัก เพราะอาหารพวกแป้งและน้ำตาลจะได้ไม่สะสมเป็นไขมันใหม่ และสารสกัดจากผลส้มแขกยังช่วยให้เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยสลายไขมันสะสมในร่างกายเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน ทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย

ชากัวรานามีประโยชน์ อย่างไรต่อสุขภาพและรูปร่าง

ชากัวรานา เป็นสมุนไพรพบในทวีปอเมริกาใต้ ที่น่าสังเกตุคือชนพื้นเมืองแถบนั้นปลูกกาแฟส่งออกเป็นจำวนมาก แต่กลับใช้กัวรานาในการให้พลังงานหรือเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย ซึ่งในกัวรานาจะมีสารที่ชื่อ การาไนด์(guaranine) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมต่อม adrenal gland ให้ทำงานปกติ ซึ่งต่อมนี้จะควบคุมระดับเกลือและน้ำตาลในเลือด อีกทั้งกัวรานายังช่วยให้เม็ดเลือดแดงสามารถจับอ๊อกซิเจนได้ดีขึ้น เมื่อเลือดที่มีปริมาณอ๊อกซิเจนในเม็ดเลือสูงไปหล่อเลี้ยสมองจึงทำให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีสมาธิในการทำงาน ขับรถ หรืออ่านหนังสือ และยังช่วยให้คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจมีอาการดีขึ้นด้วย เช่น ภูมิแพ้ ไมเกรน หอบหืด นอกจากนี้กัวรานายังให้พลังงานตามธรรมชาติ เราจึงมีพลังงานมากขึ้น และยังช่วยในเรืองของลดความอยากอกหารจุบจิบ แกแฟ บุหรี่ โดยกัวรานาไม่มีคาเฟอีนและน้ำตาลและมีแคลอรี่ต่ำ